ทั่วประเทศ / สกลนคร / จิปาถะ/ อื่นๆ / อื่นๆ

สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับการส่งออก อนุมัติง่าย (พญาไท)

ประกาศเลขที่# A1121058
สินเชื่อเพื่อธุรกิจสำหรับการส่งออก อนุมัติง่าย
ราคา: 5,000,000 บาท
ประเภทประกาศ: ประกาศ/ประชาสัมพันธ์
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ: 0900000000
 
จำนวนผู้เข้าชม  : 5 ครั้ง

คลิกที่รูปภาพเพื่อดูขนาดใหญ่

สำหรับผู้ประกอบการที่ขายไปต่างประเทศ คำถามไม่ได้มีแค่ว่า “มีออเดอร์หรือยัง” แต่ต้องตอบให้ได้ด้วยว่า “จะเอาเงินที่ไหนมาวิ่งทันรอบผลิต–แพ็ก–ส่ง–รอผู้ซื้อจ่าย?” นี่คือพื้นที่ของ สินเชื่อเพื่อการส่งออก ซึ่งออกแบบมาสำหรับธุรกิจที่มีเอกสารการค้าระหว่างประเทศชัดเจน (เช่น L/C, สัญญาซื้อขาย, ใบสั่งซื้อ) ให้ “เงินเข้า” สอดคล้องกับรอบงานจริงมากที่สุด

บริบทตลาดปีนี้ช่วยให้ภาพชัดขึ้น: ธนาคารแห่งประเทศไทยคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% (มติ 5:2 เมื่อ 8 ต.ค. 2025) สื่อระบุชัดว่าเป็นการประคองเศรษฐกิจในช่วงที่ความไม่แน่นอนสูง หมายความว่าเครื่องมือการเงินแบบระยะสั้นที่มีเอกสารแน่น ๆ ยังพอ “คุยเงื่อนไขได้” ถ้าธุรกิจเตรียมข้อมูลครบถ้วนครับ.


สินเชื่อเพื่อการส่งออกคืออะไร (ขยายความจาก 5 บรรทัด)

1) เงินทุนหมุนเวียนระยะสั้น “ตามเอกสารจริง”
ธนาคารเปิดวงเงินให้คุณใช้ก่อน–หลังส่งของ โดยอ้างอิงเอกสารการค้า เช่น L/C (Letter of Credit: หนังสือเครดิตของธนาคารผู้นำเข้า), สัญญาซื้อขาย หรือใบสั่งซื้อ ทำให้ “เงินหมุน” ผูกกับดีลจริง ไม่ใช่กู้ยาวลอย ๆ แบบไม่อิงงาน.

2) ใช้ได้ทั้งก่อนส่งของ (Pre-shipment) และหลังส่งของ (Post-shipment)
ก่อนส่งของเรียกง่าย ๆ ว่า Export Credit—ดึงเงินไปซื้อวัตถุดิบ ผลิต จัดส่ง ส่วนหลังส่งของคือ Bill Purchase/Bill Discount—ธนาคาร “รับซื้อ/รับส่วนลด” ตั๋วส่งออกให้เงินสดเร็ว แล้วรอผู้ซื้อจ่ายจริงค่อยเคลียร์ต่อ ช่วยลด DSO (จำนวนวันรอรับเงิน) ลงได้มาก.

3) คิดดอก “ตามวันที่ใช้จริง” และเปิดได้หลายสกุลเงิน
ส่วนใหญ่คิดดอกเฉพาะช่วงเวลาที่ใช้วงเงินจริง ๆ และเปิดเป็น บาท/ดอลลาร์/เยน ตามที่ตกลง (บางรายการผูกเงื่อนไขกับสกุลของ L/C หรือใบสั่งซื้อ).

4) มีตัวช่วยลดความเสี่ยงไม่จ่ายเงินของผู้ซื้อ
คือ ประกันการส่งออก (Export Credit Insurance) คุ้มครองความเสี่ยงเชิงพาณิชย์และทางการเมือง หากผู้ซื้อจ่ายไม่ได้/จ่ายช้า ช่วยให้คุณกล้ารับออเดอร์ใหม่ และธนาคารก็ “มั่นใจ” ขึ้นเมื่อพิจารณาวงเงิน.

5) เชื่อมกับบริการการค้าต่างประเทศ
เช่น การเปิด/รับรอง L/C การตรวจเอกสาร (Documentary Trade) และ Trust Receipt (T/R: เงินกู้สั้น ๆ สำหรับผู้นำเข้าเพื่อเอาของออกมาใช้ก่อน)—ทั้งหมดนี้ประกอบร่างเป็น “ระบบเงินหมุน” ที่พาธุรกิจไป–กลับระหว่างโรงงานและต่างประเทศอย่างปลอดภัย.


ใครเหมาะที่สุดกับสินเชื่อเพื่อการส่งออก

  • ผู้ส่งออกที่ เครดิตเทอมยาว (30–90 วัน) และต้องการเร่งเงินสดให้ทันต้นทุนค่าแรง/วัตถุดิบ

  • ธุรกิจที่ เอกสารครบ (PO, ใบส่งของ, อินวอยซ์, B/L, L/C) และมีวินัยการส่งของตามกำหนด

  • ผู้ประกอบการที่เริ่ม ตลาดใหม่/ลูกค้าใหม่ อยากลดความเสี่ยง “ส่งแล้วไม่ได้ตังค์” ด้วย L/C หรือประกันการส่งออก

  • ธุรกิจที่มี รายได้ต่างสกุลเงิน ต้องการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนคู่กับวงเงิน

หมายเหตุ: ฝั่งรายได้ปีนี้มีสัญญาณเชิงบวก—กระทรวงฯ รายงานว่าส่งออกไทยทำสถิติรายเดือนสูงสุดใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2025 ก่อนชะลอบ้างตามภาวะโลก นี่สะท้อนว่า “โอกาสยังมี” แต่ความผันผวนสูง การมีแผนเงินหมุนที่ผูกกับเอกสารจึงสำคัญมาก.


เปรียบเทียบ “งานของเงิน” กับผลิตภัณฑ์ยอดนิยม 1) Export Credit (Pre-shipment)— เงินก่อนส่งของ

ใช้เมื่อ: ต้องซื้อวัตถุดิบ/ผลิต/แพ็กให้ทันรอบ PO หรือ L/C
ดีอย่าง: ใช้เท่าไรจ่ายเท่านั้น ไม่ต้องแบกงวดคงที่ทั้งปี
หมายเหตุ: ทำเคสให้ผูกกับเอกสารจริง (PO/สัญญา/L/C) จะ “อนุมัติง่าย” เพราะธนาคารเห็นเงินจะเข้าเมื่อไรจากดีลนั้น ๆ.

2) Bill Purchase/Discount (Post-shipment)— เงินหลังส่งของ

ใช้เมื่อ: ส่งของแล้ว แต่อยาก “รับเงินทันที” เพื่อหมุนรอบการผลิตถัดไป
ดีอย่าง: ตัด DSO ลง เห็นเงินสดเร็วขึ้น 80–90% ของมูลค่าเอกสาร (โดยประมาณ ตามเงื่อนไขธนาคาร) แล้วปิดยอดเมื่อคู่ค้าจ่ายจริง

3) L/C (Letter of Credit)— รั้วคุ้มกัน “ส่งแล้วไม่ได้เงิน”

ใช้เมื่อ: อยากลดความเสี่ยงการชำระจากคู่ค้ารายใหม่/ตลาดเสี่ยง
ดีอย่าง: เป็นคำรับรองการจ่ายจากธนาคารผู้นำเข้า หากเอกสารตรงเงื่อนไข คุณจึงมั่นใจเรื่องเงินได้มากขึ้น (และง่ายต่อการต่อวงเงินกับธนาคารในประเทศ).

4) Trust Receipt (T/R)— สะพานสั้น ๆ ฝั่งนำเข้า

ใช้เมื่อ: ต้องนำเข้าวัตถุดิบ/อะไหล่เพื่อผลิตของส่งออก
ดีอย่าง: เอาของออกมาใช้ก่อน จ่ายเงินต้น–ดอกตามกำหนด 30–180 วัน (ตัวอย่างเงื่อนไขจากธนาคารพาณิชย์และ EXIM).

5) ประกันการส่งออก— ตาข่ายนิรภัย

ใช้เมื่อ: ขยายตลาดใหม่/สัดส่วนลูกค้ารายเดี่ยวสูง
ดีอย่าง: คุ้มครองความเสี่ยงไม่จ่าย (เชิงพาณิชย์/การเมือง) และช่วยให้ธนาคาร “ปล่อยง่ายขึ้น/อัตราดีขึ้น” เพราะความเสี่ยงปลายทางถูกคุมไว้ชั้นหนึ่งแล้ว.


“อนุมัติง่าย” ในโลกจริง แปลว่าอะไร

คำนี้ ไม่ใช่ “ไม่ดูอะไรเลย” แต่คือ “กระบวนการสั้น เอกสารชัด ความเสี่ยงอธิบายได้” โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายนโยบายคงดอก 1.50% และชี้ว่าพร้อมผ่อนถ้าจำเป็น—ธนาคารจะยิ่งมองหาเคสที่ เห็นกระแสเงินสดเข้า–ออกชัด และมีรั้วคุ้มกันความเสี่ยง (L/C หรือประกันการส่งออก) มากกว่าเคสที่ต้องเชื่อความคาดหวังล้วน ๆ. Bot

เช็กลิสต์ 1 หน้า สำหรับยื่นวงเงินแบบ “ผ่านไว”

  • รายชื่อลูกค้า–ประเทศ–วิธีรับชำระ (L/C, OA, D/P ฯลฯ) พร้อมสัดส่วนยอดขาย

  • ตารางผลิต–ส่งออก 6–12 เดือน: เดือนที่ “ใช้เงิน” และเดือนที่ “เงินจะเข้า”

  • ชุดเอกสารตัวอย่างครบ: PO/สัญญา, ใบส่งของ, B/L/AWB, อินวอยซ์

  • ทางเลือกคุมความเสี่ยงที่เลือก (L/C หรือ ประกันการส่งออก)

  • กระแสเงินสด 3 ฉากทัศน์ (ฐาน–ดี–แย่) ให้เห็นจุดใช้–คืนเงินชัด

  • คำขอเงื่อนไข: คิดดอกตามจริง, ค่าธรรมเนียมชัด, สิทธิปิดก่อนกำหนดต้นทุนต่ำ

ทำครบ ธนาคาร “เห็นภาพเดียวกับคุณ” และนี่แหละคือ สินเชื่ออนุมัติง่าย ในทางปฏิบัติของยุคนี้


ต้นทุนที่ต้องดูให้ครบ (ก่อนเซ็น)

  • ดอกเบี้ย/อัตราคิดส่วนลดเอกสาร: คิดตามวันที่ใช้จริง อย่าลืมเปรียบเทียบ “อัตราจริงทั้งดีล”

  • ค่าธรรมเนียมเอกสาร/ค่าตรวจเอกสาร L/C: ถ้าเอกสารผิด (discrepancy) อาจช้า/มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม—ควรให้ธนาคารช่วย “พรีเช็ก” ก่อนส่งจริง.

  • อัตราแลกเปลี่ยน: เลือกสกุลเงินให้ตรงรายรับ–รายจ่าย และพิจารณาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนควบคู่

  • เบี้ยประกันการส่งออก: คุ้มครองความเสี่ยง และอาจทำให้ต้นทุนรวม “ถูกกว่า” ความเสี่ยงที่ต้องรับเองในตลาดใหม่.


เคสสั้น ๆ: โรงงานอาหารแปรรูป “ลดวันรอเงินจาก 60 วัน เหลือไม่กี่วัน”

  • เดิมขายแบบเปิดอินวอยซ์ 60 วัน ทำให้ต้องดึง OD ตลอด

  • เปลี่ยนมาใช้ Bill Purchase ใต้ L/C: ธนาคารรับซื้อบิลให้เงิน 80–90% ภายในไม่กี่วัน ที่เหลือจ่ายเมื่อผู้ซื้อชำระจริง

  • แนบ ประกันการส่งออก สำหรับตลาดใหม่ ผลคือวงเงิน OD ลดลง รอบผลิตเพิ่มได้อีก 1 เทิร์น และต่อรองราคาซัพพลายเออร์ด้วย “เงินสด” ได้ดีขึ้น


บริบทเศรษฐกิจโลก: ทำไมต้องระวังและเตรียมแผน B

ผู้บริหาร ธปท. เตือนชัดว่าความตึงเครียดทางการค้า (เช่น สหรัฐ–จีน) เป็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มเติบโตของไทย—นี่คืออีกเหตุผลที่ผู้ส่งออกควรมี “รั้ว” อย่าง L/C หรือประกันการส่งออกครอบไว้ เพื่อให้เงินหมุนของกิจการไม่สะดุดเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดในประเทศคู่ค้า.


สรุปให้ง่าย: เลือกเงินให้ “ตรงงานส่งออก”

  • ถ้าต้อง ผลิต–แพ็ก–ส่ง ให้ทันรอบ → ใช้ Export Credit (Pre-shipment)

  • ถ้าต้อง เร่งเงินหลังส่งของ → ใช้ Bill Purchase/Discount (Post-shipment)

  • ถ้า กังวลความเสี่ยงไม่จ่าย → ใช้ L/C หรือ ประกันการส่งออก พ่วงเข้าด้วยกัน

  • ถ้า ต้องนำเข้าวัตถุดิบ ก่อนผลิต → ใช้ Trust Receipt (T/R) เป็นสะพานสั้น ๆ

ทั้งหมดนี้คือ แหล่งเงินทุน ที่ “จับงานจริง” ของผู้ส่งออก และเข้าใกล้ความหมายของ สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ที่ อนุมัติง่าย ในโลกความจริง—เมื่อเอกสารครบ แผนเงินชัด และความเสี่ยงถูกคุมอย่างเป็นระบบ


อ่านต่อ (บทความหลัก)

 

อยากได้สรุปแบบเช็กลิสต์ + ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของตลาดไทยสำหรับผู้ส่งออก ไปต่อที่บทความหลักของคุณ: สินเชื่อเพื่อการส่งออก (ประเภท–ขั้นตอน–ข้อพิจารณา) เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจของทีมการเงินและฝ่ายขาย

วันที่ลงประกาศ: วันนี้  13:01
วันสิ้นสุดประกาศ: 15 มกราคม 2026  13:01
ติดต่อเจ้าของประกาศ: (ใช้ฟอร์มติดต่อด้านล่าง)
 
อีเมลของคุณ: *
ข้อความ: *
ไฟล์แนบ:
ไฟล์ที่อนุญาติ: jpg, jpeg, gif, png, pdf, zip, rar
ขนาดไม่เกิน: 2000KB
ตัวเลขยืนยัน: *
พิมพ์ตัวเลขยืนยัน 4 ตัวลงในช่องด้านล่าง