ทั่วประเทศ / แม่ฮ่องสอน / ธุรกิจ/ ขายส่ง/ กิจการ / อื่นๆ

สินเชื่อเพื่อธุรกิจวงเงินสูงขอได้ไม่ยาก (ลาดพร้าว)

ประกาศเลขที่# A1121365
สินเชื่อเพื่อธุรกิจวงเงินสูงขอได้ไม่ยาก
ราคา: 5,000,000 บาท
ประเภทประกาศ: ประกาศ/ประชาสัมพันธ์
สภาพสินค้า: ใหม่
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ: 0900000000
 
จำนวนผู้เข้าชม  : 18 ครั้ง

คลิกที่รูปภาพเพื่อดูขนาดใหญ่

หลายคนเข้าใจว่า “ยอดขายสูง” คือสิ่งที่ทำให้ธนาคารกล้าให้วงเงินเยอะ แต่ในโลกจริงของการปล่อยสินเชื่อไม่ใช้ทรัพย์ค้ำประกัน สิ่งที่ผู้ให้กู้ใช้ตัดสินใจไม่ใช่ตัวเลขยอดขายบนกระดาษ หากแต่คือ “จังหวะเงินจริงของธุรกิจ” — เงินเข้าออกจริงในบัญชี การชำระหนี้ตรงเวลา และความสอดคล้องของตัวเลขกับเอกสารที่ยื่น

ในฐานะที่ปรึกษาด้าน สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ผมมักบอกลูกค้าเสมอว่า

“ถ้าอยากได้วงเงินสูง ต้องจัดตัวเลขให้เล่าเรื่องเดียวกัน”
หมายถึง ทุกข้อมูลทางการเงิน — ตั้งแต่สเตตเมนต์ ยอดขาย ภาษี จนถึงใบเสนอราคา — ต้องเชื่อมโยงกันอย่างมีเหตุผล


1. เข้าใจ “จังหวะเงินจริง” ก่อนพูดถึงยอดขาย

ในปี 2568 แนวโน้มของสถาบันการเงินไทยเริ่มเปลี่ยนจากการดู “ยอดขายรวม” ไปสู่ “กระแสเงินสดจริง” มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก และ รีไฟแนนซ์สินเชื่อsmeSMEซึ่งธนาคารใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล (Data-driven Lending) ดู “พฤติกรรมเงินหมุน” แทนการดูงบการเงินเพียงอย่างเดียว

ดังนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่การโชว์รายได้สูง แต่คือการแสดงให้เห็นว่า

  • รายได้เข้าบัญชีต่อเนื่อง

  • รอบการจ่ายลูกค้าสม่ำเสมอ

  • และมีส่วนเกินเงินสดเหลือหลังหักค่าใช้จ่าย

การเดินบัญชีให้เห็นรายรับประจำ เช่น การโอนเงินจากลูกค้าหลักเดือนละเท่า ๆ กัน จะช่วยให้ธนาคารเห็นภาพ “กระแสเงินสดมั่นคง” ซึ่งเป็นปัจจัยแรกที่ส่งผลต่อแหล่งเงินทุน

คำแนะนำจากที่ปรึกษา:ธุรกิจที่มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป มีโอกาสได้วงเงินเพิ่ม 10–30% โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์เพิ่ม


2. วงเงินสูงเริ่มจาก “ความสมเหตุสมผลของการขอ”

การขอวงเงินที่มากเกินความจำเป็น มักเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ธนาคารตั้งคำถามหรือชะลอการอนุมัติ เพราะสถาบันการเงินจะเทียบวงเงินที่ขอกับ “ช่องว่างเงินสดจริง” (Cash Gap) ในรอบบัญชี

หากธุรกิจต้องใช้เงินหมุนเวียน 1 ล้านบาทต่อเดือน แต่ขอวงเงิน 5 ล้านบาทโดยไม่มีเหตุผลสนับสนุน ผู้ให้กู้จะมองว่าเป็นความเสี่ยง ดังนั้น การขอวงเงินสูงควรมี “แผนใช้เงิน” ที่ชัดเจน เช่น ขยายสายการผลิต จ้างพนักงานเพิ่ม หรือซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าในช่วงราคาดี

มุมวิเคราะห์:การระบุ “เหตุผลเชิงธุรกิจ” ทำให้เจ้าหน้าที่สินเชื่อเข้าใจภาพรวมได้เร็วกว่า และใช้เวลาอนุมัติน้อยลง เพราะเห็นว่าธุรกิจมีแผนชัดเจน ไม่ได้กู้เผื่อ


3. สร้างเครดิตทางธุรกิจให้แข็งแรงก่อนขอเพิ่ม

การได้วงเงินสูงไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ แต่จำเป็นต้องมี “เครดิตธุรกิจที่ดี” — ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมทางการเงิน เช่น

  • ชำระหนี้ตรงเวลา

  • ไม่เปิดบัญชีซ้ำซ้อนหลายแห่ง

  • ไม่ใช้ OD เต็มวงเงินตลอดเวลา

ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า SME ที่มีเครดิตสม่ำเสมอ สามารถเข้าถึง แหล่งเงินทุนไม่มีหลักประกัน ได้ง่ายกว่า และมีโอกาสได้รับวงเงินเฉลี่ยสูงขึ้น 1.5 เท่าจากกลุ่มทั่วไป

หากธุรกิจมีหนี้เดิม เช่น OD หรือ Term Loan การรักษาวินัยชำระหนี้ให้ดีอย่างต่อเนื่อง 6–12 เดือน จะทำให้ผู้ให้กู้ “ยกระดับเครดิตภายในระบบ” ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อวงเงินอนุมัติครั้งถัดไป


4. เอกสารทุกชุดต้อง “พูดภาษาเดียวกัน”

ในกระบวนการอนุมัติสินเชื่อ ผู้ให้กู้จะไม่เพียงดูว่าธุรกิจมีเอกสารครบ แต่จะตรวจว่า “ตัวเลขแต่ละส่วนสอดคล้องกันหรือไม่” เช่น ยอดขายในงบภาษีต้องใกล้เคียงกับยอดเงินเข้าบัญชีในสเตตเมนต์ และต้องสัมพันธ์กับใบเสนอราคาหรือสัญญาลูกค้าหลัก

การเตรียมเอกสารที่สอดคล้องกันทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ในวงการเรียกว่า “เล่าเรื่องเดียวกัน” — เมื่อตัวเลขไม่ขัดแย้งกัน ผู้ให้กู้จะมั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง และพร้อมพิจารณาวงเงินสูงขึ้นโดยไม่ลังเล

เอกสารที่ควรจัดเตรียมให้ครบ ได้แก่

  • งบการเงินย้อนหลัง 1–2 ปี

  • สเตตเมนต์ธนาคาร 6–12 เดือน

  • สัญญาหรือ PO จากลูกค้าหลัก

  • แผนกระแสเงินสดคาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า

ธุรกิจที่จัดเตรียมข้อมูลครบและตรงกันทั้ง 4 ส่วน จะมีคะแนนเครดิตภายใน (Internal Rating) สูงขึ้นทันที


5. ใช้ “รีไฟแนนซ์สินเชื่อ SME” เป็นเครื่องมือเพิ่มวงเงิน

หลายกิจการที่มีสินเชื่ออยู่แล้วอาจมองว่าขอเพิ่มไม่ได้ แต่ในความจริง “รีไฟแนนซ์สินเชื่อ SME” คือวิธีที่ผู้ประกอบการมืออาชีพใช้เพื่อเพิ่มวงเงินโดยไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่

การรีไฟแนนซ์ที่ดีไม่ใช่แค่ย้ายหนี้ไปที่ดอกเบี้ยต่ำกว่า แต่คือการ “จัดโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับรอบรายได้” เช่น เปลี่ยนจากสินเชื่อระยะสั้นเป็นระยะกลาง ยืดระยะผ่อนเพื่อให้ DSCR (อัตราส่วนความสามารถชำระหนี้) ดีขึ้น หรือรวมหลายบัญชีให้เหลือพอร์ตเดียวที่บริหารง่ายกว่า

ในปี 2568 หลายธนาคารเปิดโปรแกรมรีไฟแนนซ์สำหรับ ธุรกิจ SMEโดยเฉพาะ เช่น ลดดอกเบี้ยเฉลี่ย 0.5–1% และเปิดโอกาสให้ขอเพิ่มวงเงิน 10–20% หากมีประวัติการชำระดี ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม


6. ปรับโครงสร้างวงเงินให้สอดคล้องกับประเภทการใช้

อีกจุดที่ผู้ประกอบการมักพลาด คือการใช้วงเงินผิดประเภท เช่น ใช้ OD เพื่อซื้อเครื่องจักร หรือใช้ Term Loan ไปหมุนรายเดือน ซึ่งจะทำให้การคำนวณภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) สูงเกินจริง

แนวทางที่ถูกต้องคือแบ่งวงเงินให้เหมาะกับลักษณะงาน เช่น

  • OD สำหรับหมุนเวียนรายเดือน

  • Term Loan สำหรับการลงทุนขยายกิจการ

  • Factoring (แฟคตอริ่ง)สำหรับธุรกิจที่มีบิลลูกค้ารอชำระ

  • Leasing / Hire Purchase สำหรับสินทรัพย์เฉพาะทาง เช่น รถหรือเครื่องจักร

การแยกวงเงินตามงานจะทำให้ผู้ให้กู้เห็นว่า ธุรกิจเข้าใจการบริหารทางการเงิน และ “มีวินัยเชิงโครงสร้าง” ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ธนาคารกล้าอนุมัติวงเงินรวมสูงขึ้น


7. บทสรุป: “วงเงินสูง” เริ่มจากความพร้อมที่พิสูจน์ได้

ไม่มีธุรกิจใดได้วงเงินสูงเพราะโชค ทุกวงเงินเกิดจาก “หลักฐานที่เล่าเรื่องเดียวกัน” — กระแสเงินสดที่ชัด เอกสารที่สอดคล้องกัน และเครดิตที่ดีในระบบ เมื่อผู้ประกอบการเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ก็จะรู้ว่าการเตรียมตัวก่อนยื่นสินเชื่อคือการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังวางแผนขอสินเชื่อหรือรีไฟแนนซ์ในปี 2568 นี่คือเวลาที่ควรเริ่มจัดระเบียบตัวเลข จัดแฟ้มเอกสาร และเดินบัญชีให้เห็นเงินเข้าจริง เพราะสิ่งเหล่านี้คือ “ภาษาที่ธนาคารเข้าใจ” และจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่ แหล่งเงินทุนไม่มีหลักประกัน ที่ให้วงเงินสูงขึ้นโดยไม่เพิ่มภาระ


แนะนำอ่านต่อ

หากต้องการเข้าใจขั้นตอนและเทคนิคการเพิ่มวงเงินอย่างละเอียด สามารถอ่านบทความหลัก
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ วงเงินสูง ได้ไม่ยาก”
บนเว็บไซต์ EasyCashflows ซึ่งสรุปวิธีจัดเอกสาร วาง DSCR–LTV และตัวอย่างจริงของการปรับวงเงินให้ผ่านอนุมัติ

 

วันที่ลงประกาศ: เมื่อวานนี้  12:23
แก้ไขประกาศล่าสุด: เมื่อวานนี้  12:31
วันสิ้นสุดประกาศ: 6 กุมภาพันธ์ 2026  12:23
ติดต่อเจ้าของประกาศ: (ใช้ฟอร์มติดต่อด้านล่าง)
 
อีเมลของคุณ: *
ข้อความ: *
ไฟล์แนบ:
ไฟล์ที่อนุญาติ: jpg, jpeg, gif, png, pdf, zip, rar
ขนาดไม่เกิน: 2000KB
ตัวเลขยืนยัน: *
พิมพ์ตัวเลขยืนยัน 4 ตัวลงในช่องด้านล่าง