*** สำคัญมาก ไม่ต้องโอนเงินก่อนใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีแสดงว่าถูกหลอก!! ***
|
ราคา | : 5,000,000 บาท |
ประเภทประกาศ | : ประกาศ/ประชาสัมพันธ์ |
|
จำนวนผู้เข้าชม | : 52 ครั้ง |
|
|
คลิกที่รูปภาพเพื่อดูขนาดใหญ่
*** สำคัญมาก ไม่ต้องโอนเงินก่อนใดๆ ทั้งสิ้น ถ้ามีแสดงว่าถูกหลอก!! ***
เมื่อไม่มีบ้าน–ที่ดินค้ำ ธุรกิจยังมีโอกาสโตได้ไหม?
ลองนึกภาพเจ้าของร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดได้ 1 ปี ยอดขายโตต่อเนื่องจนอยากเปิดสาขาใหม่ แต่ติดปัญหาใหญ่: ไม่มีบ้านหรือที่ดินเป็นหลักประกัน จะทำอย่างไรให้เข้าถึง สินเชื่อเพื่อธุรกิจ ได้? นี่คือที่มาของ “สินเชื่อไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน” ซึ่งในปี พ.ศ. 2568 กำลังได้รับความนิยมสูง เพราะตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่มี ศักยภาพทางการเงิน แต่ไม่มีทรัพย์สินมาค้ำประกัน
สินเชื่อ SME ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คืออะไร?
โดยพื้นฐาน นี่คือ วงเงินกู้เพื่อธุรกิจ ที่พิจารณาจาก “ศักยภาพการทำเงินของกิจการ” มากกว่ามูลค่าทรัพย์สิน ธนาคารและสถาบันการเงินจะดู 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่:
-
รายได้และความสม่ำเสมอ
-
วินัยทางการเงิน
-
ประวัติเครดิต (ชำระตรงเวลาไหม, มีค้างชำระหรือไม่)
-
ภาระหนี้ปัจจุบัน (OD, Term Loan, Leasing)
-
Insight ผู้เชี่ยวชาญ: “SME ที่ DSCR ≥ 1.2 มักผ่านง่ายกว่า เพราะสะท้อนว่ามีกระแสเงินสดเหลือพอชำระหนี้”
-
หลักฐานธุรกิจ
-
เอกสารจดทะเบียน, ใบกำกับภาษี, สัญญาซื้อขาย, Purchase Order (PO)
-
ยิ่งเอกสารชัดเจน → ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ข้อดี–ข้อจำกัด ที่ผู้ประกอบการควรรู้
ข้อดี
-
ไม่ต้องนำทรัพย์สินส่วนตัว เช่น บ้านหรือที่ดิน มาเสี่ยง
-
กระบวนการอนุมัติเร็วกว่า Term Loan แบบมีหลักค้ำ
-
เหมาะกับ SME ที่ต้องการเงินสดทันทีเพื่อโอกาสธุรกิจ
ข้อจำกัด
-
วงเงินผูกกับยอดขาย–เครดิต ไม่สูงเท่าสินเชื่อมีหลักทรัพย์
-
ต้องมีบัญชีการเงิน “สะอาด–ตรวจสอบได้”
-
ดอกเบี้ยอาจสูงกว่าสินเชื่อแบบมีหลักประกัน
เหมาะกับใครในปี 2568?
-
ร้านอาหาร–คาเฟ่ ต้องเติมสต๊อกทุกวัน และบางครั้งรอเงินจากแพลตฟอร์มเดลิเวอรี 15 วัน → ใช้วงเงินนี้สะพัดได้ทันที
-
ผู้รับเหมาก่อสร้าง งานโครงการต้องสำรองแรงงาน–วัสดุ ก่อนรอเบิกงวด 30–60 วัน → สินเชื่อเพื่อธุรกิจไม่มีหลักทรัพย์ค้ำช่วยไม่ให้ไซต์งานสะดุด
-
ธุรกิจบริการ (ซ่อมบำรุง, ทำความสะอาด, Outsource) รับงานรายเดือน แต่ต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกสิ้นเดือน → ต้องการวงเงินหมุนที่ไม่ผูกทรัพย์
-
ผู้ส่งออก–ผู้ผลิตล็อตเล็ก ต้องซื้อวัตถุดิบก่อนผลิตและส่งมอบ → ใช้สินเชื่อเพื่อธุรกิจรับมือรอบเงินต่างประเทศได้
วงเงิน ดอกเบี้ย ระยะเวลา (ปี 2568)
Insight ผู้เชี่ยวชาญ: “ปี 2568 ธนาคารใช้ e-Statement และ e-Tax ตรวจสอบแบบเรียลไทม์ ทำให้ SME ที่โปร่งใสมีโอกาสได้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าคู่แข่ง”
ใช้เงินกู้นี้กับอะไรได้บ้าง?
-
ซื้อวัตถุดิบ/เพิ่มสต๊อก → ซื้อเหมาได้ส่วนลด 5–10% ลดต้นทุนต่อหน่วย
-
สำรองค่าแรง/ขนส่ง → รักษา KPI ส่งงานทันเวลา
-
ทำการตลาด → ยิงแอด, ทำแคมเปญ, เปิด Pop-up Store
-
ซื้ออุปกรณ์/ปรับปรุงเครื่องมือ → คืนทุนเร็วจากต้นทุนการผลิตที่ลดลง
-
ยกระดับมาตรฐาน/ใบอนุญาต → เช่น GMP, ISO เพื่อเจาะตลาด Modern Trade
-
สะพัดกระแสเงินสดระหว่างรอเก็บหนี้ → ป้องกันเงินขาดมือ
ตัวอย่าง: ธุรกิจที่ใช้จริง
-
ร้านกาแฟคุณนัท ต้องรีโนเวตร้านและซื้อเครื่องชงใหม่รวม 1 ล้านบาท → เลือกกู้ Term Loan ผ่อน 5 ปี เดือนละ ~22,000 บาท ผลลัพธ์: เปิดสาขาใหม่ได้ตรงเวลา ไม่กระทบสาขาเก่า
-
ผู้รับเหมาคุณมนตรี มีโครงการ 2 งาน มูลค่า 5 ล้านบาท ต้องสำรองจ่ายแรงงานก่อนเบิกงวด → ใช้วงเงิน Working Capital 2 ล้านบาท อิงสัญญา (Payment Certificate) ผลลัพธ์: งานไม่สะดุด, ได้รีวิวลูกค้าดี ส่งผลต่อการได้งานใหม่
เคล็ดลับใช้ให้คุ้มค่า
-
ทำแผนหมุนเงิน 90 วัน → รู้ว่าเมื่อไรเงินกู้ “คืนตัวเอง”
-
แยกบัญชีธุรกิจ/ส่วนตัว → เพิ่มความโปร่งใสต่อธนาคาร
-
ใช้กู้เพื่อสร้างรายได้ ไม่ใช่ใช้จ่ายส่วนตัว
-
รักษา DSCR ≥ 1.2–1.3 → ธนาคารจะมองว่าธุรกิจมั่นคง
สรุป: สินเชื่อไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันคือกุญแจโตในปี 2568
ในโลกที่การแข่งขันสูงและต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น SME ไม่จำเป็นต้องมีบ้าน–ที่ดินค้ำประกันเสมอไป หากกิจการมีรายได้จริง บัญชีการเงินโปร่งใส และวินัยดี สินเชื่อเพื่อธุรกิจแบบไม่มีหลักประกัน ก็สามารถเป็นทางออกที่ทำให้คุณก้าวสู่การขยายกิจการได้
👉 อยากรู้ว่าวงเงินที่เหมาะกับธุรกิจคุณควรเป็นเท่าไร? ศึกษาและปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.easycashflows.com
วันที่ลงประกาศ:
29 กันยายน 2025 12:18
แก้ไขประกาศล่าสุด:
เมื่อวานนี้ 13:21
วันสิ้นสุดประกาศ:
28 ธันวาคม 2025 12:18
ติดต่อเจ้าของประกาศ:
(ใช้ฟอร์มติดต่อด้านล่าง)
|