ทั่วประเทศ / สมุทรสาคร / บริการ/ แต่งงาน/ รับจ้างทั่วไป / บริการอื่นๆ

แผนที่แหล่งเงินทุน ปี 2568

ประกาศเลขที่# A1120951
แผนที่แหล่งเงินทุน ปี 2568
ราคา: 5,000,000 บาท
ประเภทประกาศ: ประกาศ/ประชาสัมพันธ์
สภาพสินค้า: ใหม่
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ: 0900000000
 
จำนวนผู้เข้าชม  : 16 ครั้ง

คลิกที่รูปภาพเพื่อดูขนาดใหญ่

 

ปี 2568 เป็นปีที่ “เงินหาง่ายขึ้นเล็กน้อย แต่ได้ยากถ้าไม่เตรียมข้อมูล” ดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยลดลงสู่ 1.50% เมื่อ 13 ส.ค. 2568 ช่วยบรรเทาต้นทุนการเงินบางส่วน ขณะเดียวกัน ผู้ให้กู้ยังคัดกรองเข้มและให้ความสำคัญกับข้อมูลจริงในธุรกิจ (กระแสเงินสด–เอกสารประกอบ) มากกว่าช่วงก่อน ๆ ดังนั้น การเลือก แหล่งเงินทุน ที่ “ตรงหน้าที่ของเงิน” และเตรียมแฟ้มข้อมูลให้พร้อมคือปัจจัยชี้ขาดของ สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ และ สินเชื่อเพื่อธุรกิจใหม่ ในปีนี้.

อีกด้านหนึ่ง รายงานระบบธนาคารล่าสุดชี้ว่า อัตราหนี้เสีย (NPL) ไตรมาส 1/2568 อยู่ที่ราว 2.90% ขณะที่สินเชื่อภาค SME ยังหดตัวบางส่วน ทำให้หลายสถาบันคงแนวทางระมัดระวัง ดังนั้น “การใช้เอกสารจริงที่เล่าเรื่องเดียวกันกับบัญชี” และ “ตั้งวงเงินพอดีกับการใช้” จึงยิ่งสำคัญต่อการเข้าถึง แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์ สำหรับผู้เริ่มต้น.

ด้านกฎเกณฑ์เอง แนวคิด Responsible Lending (ปล่อยกู้อย่างรับผิดชอบ) ของ ธปท. ที่ปรับปรุงล่าสุดบังคับให้ผู้ให้กู้ทวนสอบความสามารถชำระหนี้อย่างละเอียดตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ นี่แปลว่า ถ้าคุณเตรียม “เรื่องเล่าทางการเงินหนึ่งย่อหน้า” (จะใช้เงินทำอะไร เงินจะเข้าเมื่อไร คืนอย่างไร) ชัด ๆ และมีเอกสารยืนยันครบ โอกาสได้รับ “ไฟเขียว” จะสูงขึ้นกว่าการยื่นคำขอแบบกว้าง ๆ.

เพื่อให้ตัดสินใจได้ง่าย บทความนี้สรุป “แหล่งเงินทุน” ที่ผู้ประกอบการใช้ได้จริงในปี 2568 แบ่งตามหน้าที่ของเงิน พร้อมข้อดี–ข้อควรระวัง และมุมวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์สำหรับผู้เริ่มต้น


1) เงินตัวเอง (Bootstrapping) และคนใกล้ตัว: ฐานที่มั่นของการเริ่มต้น

เหมาะกับ: ระยะเริ่มต้นที่ต้องทดสอบตลาด ปรับสินค้า โมเดลธุรกิจยังไม่นิ่ง
ข้อดี: ตัดสินใจเร็ว คุมทิศทางเต็มที่ ไม่เพิ่มภาระหนี้
ข้อควรระวัง: ขนาดเล็กและเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์หากดึงเงินคนใกล้ชิด

คำแนะนำ: วาง “งบทดลอง” ชัดเจน เช่น 3–6 เดือน พร้อมตัวชี้วัด (ยอดขายขั้นต่ำ ลูกค้ากลับซื้อซ้ำ ฯลฯ) เพื่อรู้ว่าควรขยายหรือหยุด โฟกัสที่การสร้าง “ร่องรอยดิจิทัล” (ยอดรับโอน/สลิป/ใบกำกับ) ตั้งแต่วันแรก เพราะต่อไปคุณต้องใช้สิ่งนี้ยื่น สินเชื่อผู้ประกอบการรายใหม่ กับสถาบันการเงิน


2) สินเชื่อรายย่อย–ไมโครไฟแนนซ์สำหรับเริ่มธุรกิจ

เหมาะกับ: ผู้เริ่มที่ยอดขายเริ่มสม่ำเสมอ ต้องการทุนหมุนรอบสั้น (สต็อก/ค่าเช่า/ค่าการตลาด)
ข้อดี: วงเงินไม่ใหญ่มาก ขั้นตอนเร็วกว่าเงินก้อนเพื่อการลงทุน
ข้อควรระวัง: ดอกเบี้ยอาจสูงกว่าสินเชื่อธุรกิจทั่วไป ต้องอ่านเงื่อนไขชำระขั้นต่ำและค่าธรรมเนียม

คำแนะนำ: ใช้เฉพาะ “รอบสั้นที่คืนได้แน่” และตั้งวันชำระให้ หลังวันเงินเข้า 3–7 วัน เพื่อลดความเสี่ยงกระแสเงินสดสะดุด แนวปฏิบัตินี้สอดคล้องกับกรอบคิด Responsible Lending ที่ให้ความสำคัญกับความสามารถชำระหนี้จริงของผู้กู้.


3) สินเชื่อsmeสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่(SME Early Stage): วงเงินหมุนเวียน–เงินก้อนเพื่อการลงทุน

เหมาะกับ: ร้าน/แบรนด์ที่เริ่มมีรายได้สม่ำเสมอ ต้องการ “เงินหมุน” และ/หรือ “เงินยาว” เพื่อเครื่องมือ อุปกรณ์ หรือรีโนเวต
เครื่องมือหลัก:

  • วงเงินหมุนเวียน (OD/วงเงินเบิกเกินบัญชี) – ดึง–ใช้–คืน ตามรอบขาย เหมาะกับค่าใช้จ่ายถี่

  • เงินก้อนเพื่อการลงทุน (Term/เช่าซื้อ) – ผ่อนระยะยาวสำหรับอุปกรณ์/สินทรัพย์ที่ใช้นาน

จุดตัดสินใจ: อย่าใช้เงินสั้นไปโปะ “ของยาว” เพราะจะทำให้ดอกเบี้ยรวมสูงและเงินสดตึง ควรจับคู่ “หน้าที่ของเงิน” ให้ถูกตั้งแต่ต้น แล้วค่อยปรับเพดานทีละขั้นตามผลลัพธ์จริง

แฟ้มที่ควรเตรียม: เดินบัญชี 6–12 เดือน (ลดถอนสดก้อนโตถี่ ๆ), ใบสั่งซื้อ/ใบแจ้งหนี้ที่เกี่ยวกับดีลจริง, สรุปกระแสเงินสด 1 ย่อหน้า (ใช้–เข้า–คืน) ให้ผู้พิจารณาเห็นภาพ


4) แหล่งเงินทุนไม่มีหลักทรัพย์: เมื่อไม่มีบ้าน/ที่ดินวางค้ำ

เหมาะกับ: ผู้เริ่ม–ผู้ขยายที่ไม่มีทรัพย์ค้ำ แต่มี “ข้อมูลจริง” บนบัญชีและเอกสารการค้าสอดคล้อง
ตัวอย่างเครื่องมือ: สินเชื่อหมุนเวียนแบบไม่มีหลักทรัพย์, วงเงินแฟคตอริ่ง (เปลี่ยนบิลขายเป็นเงินสด), วงเงินก่อน–หลังส่งออก (กรณีมีเอกสารต่างประเทศ)

ข้อดี: เข้าถึงเงินทุนได้โดยไม่ต้องนำทรัพย์ส่วนตัวเสี่ยง
ข้อควรระวัง: ต้องพิสูจน์ “คุณภาพกระแสเงินสด” ชัดเจน โดยเฉพาะปีที่ธนาคารระมัดระวังจาก NPL ที่ยังอยู่ระดับสูงเมื่อเทียบอดีต (ราว 2.90% ในไตรมาส 1/2568).

คำแนะนำ: ถ้ารอเก็บเงินนาน (เครดิตเทอม/เช็คเคลียร์ช้า) ให้ใช้แฟคตอริ่งบางส่วนเพื่อ “เร่งเงินเข้า” แล้วกันวันชำระหนี้ไว้หลังเงินเข้าจริง ลดความเสี่ยงขาดสภาพคล่องระหว่างทาง


5) แหล่งเงินทุนจากรัฐ–กึ่งรัฐ: ค้ำประกัน–ซัพพลายเชน–มาตรการพิเศษ

เหมาะกับ: ธุรกิจที่ต้องการเพดานสูงขึ้นแต่ยังไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ มีคำสั่งซื้อจริง/ลูกค้าหลักชัดเจน
ตัวอย่าง: โครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. (TCG) และมาตรการเสริมสภาพคล่องผ่าน Supply Chain Finance ที่ผลักดันโดยภาครัฐ

ภาพรวมปีนี้: หน่วยงานภาครัฐประกาศนโยบาย “อัดค้ำ” สนับสนุน SME ให้เข้าถึงวงเงิน โดยระบุกรอบค้ำเริ่มต้นไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท และผลักดันโมเดล “พี่ช่วยน้อง” (บริษัทรายใหญ่ช่วยค้ำหรือส่งผ่านข้อมูล) เพื่อให้สถาบันการเงินตัดสินใจง่ายขึ้น ทั้งหมดยังพิจารณาเป็นรายกรณีและขึ้นกับคุณภาพข้อมูลของผู้กู้.

เคล็ดลับ: ถ้าคุณมีลูกค้าหลัก 2–3 รายที่สั่งซ้ำ ให้ทำสรุป 1 หน้า (ยอด–รอบเงินเข้า–ประวัติการชำระ) แนบคำขอ เพราะเป็น “ทรัพย์ด้านความน่าเชื่อถือ” ที่ช่วยยกระดับโอกาสอนุมัติในโครงการค้ำและแหล่งเงินทุนจากรัฐ


6) เงินทุนแบบไม่ก่อหนี้ (Equity/Grant/Crowdfunding): ทางเลือกเมื่ออยากเติบโตเร็ว

เหมาะกับ: โมเดลที่ต้องการเติบโตก้าวกระโดด เช่น เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์นวัตกรรม หรือกิจการที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงช่วงแรก
ตัวเลือกที่พบได้: เงินร่วมลงทุนจากนักลงทุนรายบุคคล/กองทุน (Angel/VC), ทุนสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ (Grant/Matching), คราวด์ฟันดิง

ข้อดี: ไม่เพิ่มภาระผ่อน แถมได้พาร์ตเนอร์–เครือข่าย
ข้อควรระวัง: สูญเสียสัดส่วนความเป็นเจ้าของบางส่วน และต้องมีเกณฑ์ประเมินผลงานที่ชัด

ภาพรวม 2025: บทวิเคราะห์ระบบนิเวศสตาร์ทอัพไทยสะท้อนว่า หน่วยงานรัฐและเอกชนขยาย ทุน–สิทธิประโยชน์ หลายโครงการ โดยเฉพาะดิจิทัล บริหารข้อมูล พลังงานสะอาด และไบโอเทค ผู้เริ่มควรติดตามปฏิทินทุนและเงื่อนไขที่เปิดรอบตลอดปี (แต่อย่าลืมว่าทุนส่วนใหญ่ “แข่งขันสูง” และต้องมีแผนธุรกิจที่พิสูจน์ได้).


7) เงินทุนบนห่วงโซ่อุปทาน (Trade/Supply Chain Finance): ใช้ข้อมูลจริงเป็นหลักประกันทางอ้อม

เหมาะกับ: ธุรกิจที่มีซัพพลายเออร์และลูกค้ารายใหญ่ เอกสารการค้าเดินในระบบชัดเจน
ตัวอย่าง: Payables Finance (ผู้ให้กู้จ่ายให้ซัพพลายเออร์ก่อน แล้วคุณชำระคืนภายหลัง), Receivables Finance (ตั้งวงเงินอิงยอดขายปลายทาง)

ข้อดี: ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ส่วนตัว แต่ใช้ “ข้อมูลทางการค้า” ในระบบเป็นหลักฐาน
คำแนะนำ: เก็บเอกสารให้สอดคล้องทั้งชุด (ใบสั่งซื้อ–ส่งมอบ–วางบิล–รับชำระ) เพราะนี่คือ “ภาษากลาง” ของผู้ให้กู้ในยุคกำกับดูแลเข้มขึ้น


8) เงินทุนเพื่อส่งออก (Pre-/Post-Export): เมื่อดีลต่างประเทศเริ่มชัด

เหมาะกับ: ธุรกิจที่มีคำสั่งซื้อส่งออกและเอกสารการค้าครบ (เช่น สัญญาซื้อขาย, ใบขน, ตั๋วขนส่ง)
ข้อดี: วงเงินอิงดีลจริง ทำให้กำหนดเพดานและวันตัดได้ใกล้เคียงความจริง
คำแนะนำ: เตรียมแผนรับมือความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนแบบง่าย ๆ และตั้งวันชำระให้ตามหลังการรับเงินจากต่างประเทศ


วิธีเลือก “แหล่งเงินทุน” ที่ใช่ (Framework สั้น ๆ ใช้ได้ทันที)

ก. แยก “หน้าที่ของเงิน” ก่อน – เงินสั้นสำหรับค่าใช้จ่ายถี่ เงินยาวสำหรับของใช้นาน ถ้ารอเก็บเงินนานให้เสริมด้วยแฟคตอริ่ง/ซัพพลายเชน
ข. เริ่มเล็ก–พิสูจน์จริง–ค่อยขยายเพดาน – ใช้ข้อมูลยอดขายจริง 3–6 เดือนเป็นฐาน ถ้าตัวเลขนิ่ง ค่อยขยับวงเงิน
ค. ตั้งวันชำระ “ตามหลังวันรับเงิน” – หลักคิดง่าย ๆ ที่ช่วยให้แฟ้มผ่านกรอบ Responsible Lending ได้อย่างมีเหตุผล.
ง. ทำ “แฟ้มเดียวมาตรฐาน” – เดินบัญชี 6–12 เดือน, เอกสารคำสั่งซื้อ/ใบแจ้งหนี้ที่เกี่ยวกับดีลจริง, สรุปเงินสด 1 ย่อหน้า (จะใช้–เงินเข้า–คืน) ยื่นพรีสกรีน 2–3 แห่งด้วยแฟ้มเดียวกัน
จ. สำรวจค้ำประกันรัฐเมื่ออยากได้เพดานสูง – โดยเฉพาะสายซัพพลายเชน/อุตสาหกรรมที่รัฐผลักดัน (ติดตามประกาศงบค้ำเริ่มต้น ≥ 5 หมื่นล้านบาท และเงื่อนไขแต่ละโครงการ).


สรุป: เลือก “เงินให้ถูกงาน” แล้วบอกเล่า “เรื่องจริง” ให้คนปล่อยทุนเชื่อ

ในปีที่ดอกเบี้ยลดลงแต่การพิจารณายังเข้ม การได้ แหล่งเงินทุน ที่ใช่ไม่ได้เริ่มที่คำว่า “วงเงินสูงสุดเท่าไร” แต่เริ่มที่ “เงินก้อนนี้ทำหน้าที่อะไร” แล้วค่อยเลือกเครื่องมือ—วงเงินหมุนเวียน สำหรับค่าใช้จ่ายถี่, เงินก้อนเพื่อการลงทุน สำหรับของยาว, แฟคตอริ่ง/ซัพพลายเชน สำหรับเคสที่รอเก็บเงินนาน, และ “ค้ำจากรัฐ” เมื่อต้องการเพดานสูงขึ้นโดยไม่มีหลักทรัพย์ส่วนตัว จุดชี้ขาดคือ เอกสารจริงที่เล่าเรื่องเดียวกันกับบัญชี และความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด

ถ้าอยากเห็น “ภาพรวมฉบับเต็ม” ของ แผนที่แหล่งเงินทุน 2568 ที่เราอ้างแนวคิดมาใช้ พร้อมตัวอย่างการจับคู่เครื่องมือกับสถานการณ์ธุรกิจประเภทต่าง ๆ แนะนำให้อ่านบทความหลักด้านล่าง ซึ่งลงรายละเอียดครบถ้วนและมีลิงก์ต่อยอด:

 

👉 อ่านบทความหลัก: แหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจ2568

 

ดูข้อมูลของเราได้ที่นี่

วันที่ลงประกาศ: 11 ตุลาคม 2025  13:38
แก้ไขประกาศล่าสุด: เมื่อวานนี้  11:31
วันสิ้นสุดประกาศ: 9 มกราคม 2026  13:38
ติดต่อเจ้าของประกาศ: (ใช้ฟอร์มติดต่อด้านล่าง)
 
อีเมลของคุณ: *
ข้อความ: *
ไฟล์แนบ:
ไฟล์ที่อนุญาติ: jpg, jpeg, gif, png, pdf, zip, rar
ขนาดไม่เกิน: 2000KB
ตัวเลขยืนยัน: *
พิมพ์ตัวเลขยืนยัน 4 ตัวลงในช่องด้านล่าง